การเจริญภาวนา-นั่งสมาธิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทุกขอริยสัจจ์ คือ ขันธ์ ๕ ที่คนเข้าไปยึดถือ เป็นทุกข์ ...
สมุทัยอริยสัจจ์ คือ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ...
นิโรธอริยสัจจ์ คือ ความดับทุกข์ ...
มรรคอริยสัจจ์ คือ ทางไปสู่ความดับทุกข์ ได้แก่ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ”
หนังสือ พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์รองศาสตราจารย์แสง จันทร์งาม
ดูกรสุภัททะ ! อริยมรรคประกอบด้วยองค์แปด เป็นทางประเสริฐ สามารถให้บุคคล ผู้เดินไปตามทางนี้ ถึงซึ่งความสุขสงบเย็นเต็มที่เป็นทางเดินไปสูอมตะ
ดูกรสุภัททะ ! ถ้าภิกษุหรือใครก็ตามจะพึงอยู่โดยชอบ ปฏิบัติดำเนินตามมรรคอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดนี้อยู่ โลกก็จะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์
หนังสือ พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน อาจารย์วศิน อินทสระ
การเจริญภาวนา
ในที่นี่หมายถึงการปฏิบัติ เพื่อเข้าใจในหลักของธรรมะ เข้าใจความเป็นไปของชีวิต เพื่อให้จิตใจผ่องใสเบิกบาน โดยแบ่งออกเป็น ๓ ระดับ ซึ่งล้วนแต่มีจุดดีไปคนละแบบ ดังนี้
การสวดมนต์
เป็นการทำให้จิตมีสมาธิอยู่กับบทสวดมนต์ และพระเบื้องหน้า (หากสวดมนต์ต่อหน้า พระพุทธต่างๆ) นอกจากนี้ยังได้อนิสงค์จากพุทธคุณของพระคาถาต่างๆ ที่เราอ่าน หรือเปล่งวาจาออกไป และพระคาถาต่างๆล้วน เป็นถ้อยคำมงคล ทำให้เกิดศิริมงคลแต่ตัวผู้เปล่งวาจา และผู้ที่ได้ยิน คนโบราณ เชื่อกันว่าหมู่เทวดาชอบฟังธรรมะ และเสียงสวดมนต์ และจะอวยพรอันเป็นมงคลแก่ผู้เปล่งวาจานั้นๆ ...
การทำสมาธิ
เป็นการฝึกปฏิบัติตนให้มั่นคงอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้บุคคลที่ทำสมาธินั้น พ้นจากกิเลส เป้นช่วงเวลาหนึ่ง ทั้งยังเป้นการฝึกจิตใจ ให้นิ่งไม่อ่อนไหวง่าย และมั่นคงมากขึ้นเมื่อต้องเผชิญปัญหา ที่เกิดขึ้นการการดำเนินชีวิตปรกติในขั้นตอนการทำสมาธิ จะแนะนำวิธีการหายใจแบบสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ร่างกาย แข็งแรง และผ่อนคลายความเครียด...
การเจริญวิปัสสนา
ทางทีมงานคงไม่มุ่งเน้นให้ทุกคนสำเร็จฌาณขั้นสูง แต่หากผู้ใดไปถึง ก็ขออนุโมทนา ด้วยใจจริง การเจริญวิปัสสนานั้น คือการต่อยอดจากการฝึกสมาธิขึ้นมาอีกขั้น แตกต่างจากการทำสมาธิที่ จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เปลี่ยนมาเป็นการพิจารณาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อความเข้าใจแจ่มแจ้ง มองเห็นความเป็นไป และทางออก โดยไม่ฟุ้งซ่าน สับสน เช่นการพิจารณาสังขาร มองเห็นความเป็นไปตามสัจธรรม ทำให้ไม่เกิด ความยึดติด เป็นต้น